ใบย่านาง

ไม่ว่าท่านจะเป็นโรคร้ายที่รักษายาก หรือโรคที่รักษาได้  .....หลายโรคที่ย่านางช่วยบำบัด  บรรเทาได้     ย่านางเป็นพืชสมุนไพร ที่ใช้เป็นอาหารและยามาตั้งแต่โบราณใจเพชร มีทรัพย์ (หมอเขียว) นักวิชาการสาธารณสุข นักบำบัดสุขภาพทางเลือก  ครูฝึกแพทย์แผนไทย  มีประสบการณ์นำใบย่านางมารักษาผู้ป่วยหนัก หลายโรค พบว่าทุเลาเบาบางลง และหายป่วยได้ดีนักแล  

                  บางครั้งใช้ร่วมกับยาตัวอื่น แต่ส่วนใหญ่ คนที่ดื่มน้ำย่านางทุกวัน จะเห็นผลได้ภายในเวลา 3 เดือน   โรคที่มีรายงานว่า ดื่มน้ำย่านางหาย เช่น ลดน้ำตาลในเลือด  ความดันโลหิตสูง   ตกเลือดจากมดลูก  โรคเก๊าท์ และโรคเชื้อราทำลายเล็บ หรือเป็นผื่นคัน  เป็นอาการของโรคที่เกิดจากภาวะไม่สมดุลแบบร้อนเกิน
                วิธีใช้    ใบย่านางตั้งแต่ 3-10  ใบ โดยใช้ย่านางใบสด ๆ นำมาโขลกให้ละเอียด  ผสมน้ำ 1-3  แก้ว ดื่ม   วันละ 2-3 เวลา  (ไม่ต้องผสมกับน้ำตาลหรือสิ่งใด ๆ เลย  จะมีสรรพคุณดีนักแล) บางรายได้รายงานผลกลับมาว่า ริดสีดวงทวารที่เป็นอยู่นาน ได้หายเป็นปลิดทิ้ง         อีกรายหนึ่ง ประจำเดือนไม่มาเป็นเวลา 3-4  เดือน ไปหาหมอและรับยามากินก็ ยังไม่มา  หลังจากกิน น้ำใบย่านางได้ 10 วัน ประจำเดือนก็มาตามปกติ

(จากหนังสือ ย่านาง สมุนไพรมหัศจรรย์ ของ หมอเขียว) สรรพคุณ  :  จืดขม ถอนพิษ แก้ไข้ ไข้รากสาด ไข้พิษ ไข้ เซื่องซึม ไย้หัว ลิ้นกระด้างคางแข็ง กวาดคอ แก้ไข้  ฝีดาษ ไข้ดำแดง    ใบ  :  รสจืดขม  ถอนพิษสำแดง แก้ไข้ตัวร้อน  แก้ไข้ พิษ ไข้กลับ ไข้ซ้ำ         เถา  :  รสจืดขม  แก้พิษเมาเบื่อ กระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้ แก้เมาสุรา ถอนพิษผิดสำแดง แก้ไม่ผูก ไม่ถ่าย           ปรุงยาแก้ไข้รากสาด แก้ไข้สันนิบาต ไข้ป่าเรื้อรัง ไข้ทับระดู         ราก  :  บำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ แก้พิษภายในให้ ตกสิ้น แก้โรคหัวใจบวม แก้กำเดา แก้ลม  

วิธีทำน้ำใบย่านาง   คือ 1. เลือกใบย่านางที่สดทั่วไป
2. ล้างให้สะอาด
3. โขลกด้วยครก หรือปั่น ให้ละเอียด
4. ตักใส่ภาชนะรองรับ ผสมน้ำ และเอากระชอนกรอง
5. คุณจะได้น้ำ ย่านาง (อย่าใส่น้ำมากนะ เดียวมันจะเจือจาง)   

                ย่านางนั้นเป็นไม้เลื้อย เถาสีเขียวสดและอวบน้ำ    ภายใน   ลำต้นมีน้ำเมือกเหนียว มีขนตามกิ่งอ่อน    เถาเมื่อแก่มีผิวเรียบและเหนียวมาก ใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข้มรูปไข่แกมรี    ปลายใบแหลม โคนใบมน ผิวใบมัน ออกดอกเล็ก ๆ ตามซอกใบ ดอกมีสีเหลือง ผลมีขนาดเล็กกลมรี         เดิมนั้นเถาย่านางมักขึ้นอยู่เองตามป่า แต่อยากปลูกก็ไม่ยากเพียงแค่เพราะเมล็ดหรือขุดเอารากที่เป็นหัวไปปลูกในที่ใหม่ รดน้ำให้ฉ่ำชุ่ม สักพักเถาย่านางก็จะคลี่กางเลื้อยขึ้นพันค้างที่เตรียมไว้ หรือหากไม่มีค้างก็มักเลื้อยพันต้นไม้อื่นที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งก็ไม่ถือเป็นเรื่องลำบากยากเย็นสำหรับเถาย่านาง เพราะเดิมนั้นเถาย่านางเป็นไม้ป่าจึงไม่กลัวความลำบากลำบน อดทนเป็นเยี่ยมและเติบโตได้ในทุกสภาพดินและสภาพอากาศทุกฤดูกาล หากอยากได้บรรยากาศเมืองร้อนแลป่าฝนก็ปลูกได้ดีนักแล      คนโบราณเชื่อกันว่า รากของเถาย่านางนั้นสามารถแก้ไขได้ อีกทั้งยังช่วยถอนพิษผิดสำแดงและพิษอื่น ๆ  แก้เมาเรือ แก้เมาสุรา  แก้โรคหัวใจ และแก้ลม    ใบก็ช่วยถอนพิษ และแก้ไข้    ส่วนของเถาใช้แก้ตานขโมย    โรคอ้วน  เป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่มีสถิติผู้เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการตามใจปาก กินหรือบริโภคแบบไม่บันยะบันยัง เพียงแค่ยึดหลักให้ อร่อยลิ้นเป็นฟาดเรียบจนพุงกาง และปัจจัยอีกอย่างหนึ่งมาจากอาหารที่รับประทานเข้าไปมีไขมันสูง แป้งหรือน้ำตาลเยอะ ผักผลไม้รับประทานน้อย หรือบางคนไม่กินเลย เผลอแผล็บเดียวน้ำหนักเพิ่มขึ้น ตัวอ้วนกลมปุ๊ก คิดจะลดน้ำหนักให้เหลือเท่าเดิมก็สายเกินไป ลดได้ยากแล้ว ถึงตอนนี้โรคต่างๆก็จะตามมา หลายโรค    ดังนั้นจึงควรระวังในเรื่องการกิน อย่าได้ตามใจปากอย่างเด็ดขาด               

“ข้าวห่อไข่”

 ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณ bonggar

วัตถุดิบ(สำหรับ 1 ท่าน)

• ข้าวสวย 1-2 ทัพพี
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• หอมใหญ่ หั่นเป็นลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียบ ทุบ 2 กลีบ
• แครอทหรือผักที่มี หั่นเป็นลูกเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ
• กุ้ง หรือเนื้อหมู,ไก่ สักเล็กน้อย
• น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
• ซอสแม๊กกี้ เล็กน้อย
• พริกไทย
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊

วิธีการทำ

1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งกระทะให้ร้อน

2. นำกระเทียมและหอมใหญ่ลงไปพัด พอส่งกลิ่นหอม

3. นำแครอทหรือผัก ลงไปผัดสักพัก

4. นำข้าวสวยลงไปผัดให้เข้ากัน และนำใส่จานพักเอาไว้

5. ตอกไข่ลงในชาม ใส่น้ำมันหอย ตีไข่ให้เข้ากัน
6. เทไข่ลงกระทะ กลิ้งกระทะไปมาให้ไข่กระจายทั่วกระทะ จนเป็นแผ่น

5. เมื่อไข่เริ่มสุกปานกลาง นำข้าวที่ผัดพักไว้ เทลงไปบนไข่
    
6. ทำการพับไข่ ห่อข้าว และเทคว่ำใส่จาน

ตกแต่งนิดหน่อย ให้สวยงาม คิดซะว่านั่งทานในบรรยากาศร้านอาหารริมน้ำ ด้วยการ

ใช้มีดกรีดไปที่ด้านบนของไข่ เป็นเครื่องหมายบวก แล้วแบะไข่ออกมาเล็กน้อย เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จแล้ว กับเมนู “ข้าวห่อไข่ สู้น้ำท่วม”

เขียนโดย : bonggar

โอว์ลิ่ง (Owling) ท่าถ่ายรูปท่านี้ ยังฮิตอยู่

โอว์ลิ่ง (Owling) ท่าถ่ายรูปท่านี้ ยังฮิตอยู่
ไม่เชื่อ ดูภาพด้านล่างนี้ ...

ตัวสุดท้ายนี้ ท่าทางจะทำยากหน่อย 55

(จริงๆ แล้วเป็นภาพสัตว์อ้วน น้ำหนักเกินพิกัดจ้า ไม่ได้เกี่ยวกับท่าฮิตถ่ายรูปแต่อย่างไร อิอิ)

ส่วนเจ้าสองตัวนี้ ก็อยากทำมั่ง

พยายามแล้วนะฮัพ .. แต่นั่งไม่ได้

สาวน้อยตัวนี้ก็อยากลอง

ได้แค่นี้อ่ะค่า
(แต่ปลายเล็บเธอ จิกซะ เซ็กซี่มากเลยนะตัว)

--------------------------------

โอว์ลิ่ง (Owling)

สงสัยการทำท่าแพลงกิ้งถ่ายรูป จะล้าสมัยเสียแล้ว เพราะตอนนี้ท่าเลียนแบบ "นกฮูก" ที่เรียกว่า โอว์ลิ่ง (Owling) กำลังมาแรงแซงโค้ง นักเล่นเน็ตทั้งในสหรัฐ ออสเตรเลีย และอังกฤษ ต่างฮิตแอ๊กท่าดังกล่าวกันเอิกเกริก เพราะทำได้ง่ายในหลายสถานที่ ไม่น่าจะสกปรกเท่านอนกับพื้นอย่าง "แพลงกิ้ง" ไม่ต้องใช้แรงกระโดดเหมือน "เลวิเทติ้ง" ไม่ต้องนั่งลงทั้งตัวอย่าง "พับเพียบไทย" เพราะแค่นั่งยองๆ ลงไป คุณก็อินเทรนด์ได้ทันที

และประเมินว่าขณะนี้มีคนเล่นท่าโอวลิ่งไปแล้วกว่า 1,000 พันราย หลังจากที่ท่านี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นกำเนิดเชื่อว่ามาจากออสเตรเลีย

ยังไงก็ระวังอย่าปีนไปทำท่า โอว์ลิ่ง ในที่สูงนักล่ะ เดี๋ยวตกลงมา จะหาว่าฮูกไม่เตือน กรู้ๆ

ป.ล. สาวๆ จะทำท่านี้ก็ระวังกันด้วยจ๊ะ เดี๋ยวโป๊ อิอิ

เต้าฮวย(เต้าหู้)~ฟรุ๊ตสลัด~

ศุกร์นี้ทำขนมขายหารายได้ คิดไปคิดมาทำอะไรดีนะ
ทำง่าย  กินง่าย  ก็เลยปิ๊งมาเป็น เต้าฮวย(เต้าหู้)~ฟรุ๊ตสลัด~

สูตรตัวเองแหละ + ครูพักลัก...อ่านจาก Internet มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ส่วนผสม เต้าหู้

1.น้ำเต้าหู้  (จะใช้เป็นน้ำนมถั่วเหลืองแบบกล่องก็ได้นะ)                500   กรัม
2.น้ำตาลทราย                                                                                    1   ถ้วย
3.ผงวุ้น (เราใช้ตรานางเงือก จ๊ะ)                                                   1 1/2   ช้อนชา

วิธีทำ

นำน้ำเต้าหู้ใส่หม้อ และใส่ผงวุ้น คนให้ละลาย ทิ้งไว้ 2-3 นาที
จากนั้นนำไปตั้งไฟ ต้องคอยคนตลอดเวลานะ
เมื่อเริ่มจะเดิอดให้ใส่น้ำตาลทราย  และคนต่อ ให้เดือด
ลดไฟลง ช้อนฟองออกให้หมดหล่ะ ปิดไฟ ทิ้งไว้สักพัก
ตักใส่ภาชนะ ที่ต้องการ แบบในรูปก็ได้ หรือจะเป็นกล่องก็ตามใจ

เป็นอันเสร็จขั้นตอนแรกแล้ว มาทำอันต่อไปเลย
ส่วนผสมฟรุตสลัด

1.ผลไม้ที่เราชอบ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า (แอปเปิ้ล,มะละกอ,สัปประรด,ฝรั่ง,ส้ม อื่นๆ)
2.น้ำตาลทราย : น้ำเปล่า     อัตราส่วน                                          1: 1

วิธีทำ

นำน้ำตาลทราย และน้ำผสมกัน และตั้งไฟให้เดือด คอยคนตลอดเวลาด้วยหล่ะ อย่าให้ไหม้
เมื่อเดือดแล้วลดไฟ นำผลไม้ใส่เลยให้น้ำเชื่อม ซึมลงไป ประมาณ 1-2 นาทีพอ ปิดไฟได้
เสร็จแล้ว รอให้เย็นก่อนหล่ะ ค่อยเอาไปใส่บนเต้าหู้ที่เริ่มแข็ง

ป.ล. อยากกินอร่อยต้องเอาไปแช่ตู้เย็น นะจ๊ะ จะได้เก็บไว้หลายๆๆๆๆๆๆ วัน
 ทดลองเอง เก็บไว้ได้ตั้ง 5 วันแน่ะ ขอบอก

หากอยากอัฟเกรดให้ผลิตภัณฑ์ให้ทำนมสดไว้ราดเพิ่มนะ โดยเอานมสด ผสมกับ นมจืด(พวกคารเนชั่น ก็ได้) อัตราส่วนตามความชอบส่วนตัว ตั้งไฟ ใส่น้ำตามตามชอบ เดือด--->ปิดไฟ  ถ้าจะขายให้ใส่ถุงเล็กคล้ายถุงน้ำจิ้ม  สำหรับราด จะเพิ่มความหวาน - มัน อร่อยอีกแบแหล่ะ
ตกแต่งดีๆ แค่นี้ก็ขายได้แล้วนะจ๊ะ

ไดเอ็ตด้วยนม ส่วนผสมง่ายๆ

ไดเอ็ตด้วยนม ส่วนผสมง่ายๆ

ในบรรดาสูตรไดเอ็ตที่แพร่หลายในปัจจุบัน น้อยนักที่จะเป็นสูตรดั้งเดิมอย่างการไดเอ็ตด้วยนมที่ทำได้ง่ายๆ

ด้วยการดื่มนมเป็นอาหารเสริมร่วมกับการควบคุมน้ำหนักปกติ หรือลดน้ำหนักอย่างจริงจังด้วยนม ส่วนผสมที่คุณต้องการก็มีเพียงแค่นมสดและเวลาพักผ่อนที่เพียงพอเท่านั้นเอง

เริ่มจากเลือกว่าคุณจะไดเอ็ตด้วยการดื่มนมเป็นอาหารเสริม หรือลดน้ำหนักด้วยนมล้วนๆ ซึ่งจะให้ผลที่ไม่ต่างกันนัก จึงขอแนะนำว่าไดเอ็ตด้วยการดื่มนมเสริมจากอาหารสุขภาพแคลอรีต่ำนั้นจะดีกว่า

การไดเอ็ตด้วยนมล้วนจะใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ ที่คุณจะต้องดื่มแต่นมสด (ไม่พร่องมันเนย) ล้วนๆ ซึ่งคุณจะไม่มีพลังงานจากอาหารแท้ๆ คอยเติมเชื้อเพลิงให้คุณ นั่นหมายความว่าคุณต้องดื่มนมแทนอาหาร และลดการทำกิจกรรมในระหว่างวันลง ซึ่งต้องระมัดระวังให้ดี จึงไม่แนะนำวิธีนี้

ลองใช้วิธีไดเอ็ตด้วยการดื่มนมเสริม โดยคุณต้องดื่มนมสดพร่องมันเนยหรือนมสดไขมันต่ำหนึ่งแก้วแทนของว่างจุกจิกทั้งหมดที่คุณเคย (และชอบ) กิน ซึ่งอย่างน้อยๆ แคลอรีที่ได้จากนมนั้น ร่างกายสามารถนำไปใช้และเสริมสร้างกระบวนการต่อได้

ดื่มนมสดพร่องมันเนยหนึ่งแก้วกับอาหารแต่ละมื้อ หากคุณต้องการดื่มเพิ่มให้ดื่มน้ำเปล่า ไม่ใช่เครื่องดื่มอย่างอื่นที่ให้แคลอรีนะ

แคลเซียมปริมาณสูงในนมจะสามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ ด้วยการลดน้ำหนักส่วนเกิน และรักษาน้ำหนักตัวคุณให้อยู่ในระดับคงที่

เปรียบเทียบ ไข่ขาวสด กับ Albumin Powder

เปรียบเทียบ ไข่ขาวสด กับ Albumin Powder

	ไข่สด	Albumin
Protein	<10%	83-88%
น้ำ	90%	5%
น้ำตาล	1%	0%
แคลอรี่	ปกติ	ต่ำกว่า ไข่สด
การรับประทาน	ดิบ ต้องผ่านความร้อน	สุก ใช้ได้ทันที
ความสะดวก	น้อย	มาก
เก็บรักษา	7วัน แช่เย็น	24 เดือน ที่แห้ง
ความคุ้มค่า	ทิ้งไข่แดง	จ่ายเฉพาะไข่ขาว
มาตราฐาน	ฟาร์มไก่	ISO9001

ระดับ Albumin ในเลือด

ไข่ขาว (Albumin) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมา พบได้ในกระแสเลือด (แต่ก็มีมากในไข่ขาว แพทย์จึงเรียกให้ผู้ป่วยเข้าใจได้ง่ายว่า Albumin = ไข่ขาว) ไข่ขาวในเลือดตามปกติจะไม่หลุดออกมาในปัสสาวะ เพราะไตจะทำหน้าที่กรองเอาน้ำปัสสาวะออกมาจากกระแสเลือด ส่วนไข่ขาวที่มีโมเลกุลใหญ่นั้นจะไม่ออกมาด้วย และยังคงอยู่ในกระแสเลือดที่กรองแล้ว แต่เมื่อใดก็ตามที่ไตผิดปกติ ก็จะเหมือนตะแกรงก้นรั่ว มีไข่ขาวรั่วออกมาในน้ำปัสสาวะให้ตรวจเจอได้2. สาเหตุมาจากหลายปัจจัยมาก แต่มักพบในกลุ่มของคนไข้โรคไตพวก Nephrotic syndrome

Whey vs Egg Protein

	Whey	Albumin
Protein	70-95%	83-88%
Fat	3%	0%
น้ำตาล	1%	0%
แคลอรี่(ออนซ์)	117	107
อัตราสร้างกล้ามเนื้อ	3.6	3.9
BCAA	16%	14%
Albumin   รดอะมิโน	ไม่มี ครบ-สมดุลย์ปานกลาง	สูง ครบ- สมดุลย์สูง
การดูดซึม	30 mins	3-4Hr
การผลิต	สกัดด้วยกรด	spray-dry

Albumin กับการเผาผลาญไขมัน

อาหารไขมันซึ่งถูกดูดซึมจากลำไส้รวมทั้งไขมันที่สะสมในเนื้อเยื่อไขมัน (adipose tissue) ล้วนมี
คุณสมบัติไม่ละลายน้ำแต่จะถูกขนส่งไปส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานและทำหน้าที่ต่างๆได้ โดยอาศัยไปกับกระแสเลือดซึ่งเป็น aqueous solution ดังนั้นจึงต้องมีพาหะช่วยลำเลียง

ได้แก่ โปรตีนต่างๆในเลือด คือ อัลบูมิน(albumin) และ ไลโปโปรตีน(lipoprotein)
- โดยอัลบูมินช่วยลำเลียงกรดไขมันอิสระ
- ส่วนไลโปโปรตีนมีหลายชนิดช่วยลำเลียงไตรกลีเซอไรด์และไขมันชนิดอื่นๆระหว่างตับและ
เนื้อเยื่อต่างๆ

โปรตีนไข่ขาว ( Albumin )

ไข่เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญต่อร่างกาย โดยเฉพาะไข่ขาว ที่ให้โปรตีนคุณภาพสูง ปราศจากไขมัน
และคลอเรสเตอรอล ไข่ไก่ 1 ฟองใหญ่ มีไข่ขาวประมาณ 32 กรัม แต่มีโปรตีนบริสุทธิเพียง
4กรัม โดย 90% เป็นน้ำ สำหรับนักเพาะกายการรับประทานไข่ขาวต้มเพื่อให้ได้ปริมาณโปรตีน
ที่เพียงพอต่อความต้องการ อาจต้องรับประทานมากถึง 20ฟองต่อวัน การกลืนไข่ขาวต้มมากมาย
ขนาดนี้ทุกวันเป็นประจำไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อีกทั้งยังต้องเสียเวลาต้ม ปอกเปลือกและ การเก็บ

ดังนั้นจึงมีการสกัดเอาโปรตีนบริสุทธิ จากไข่ขาว มาในรูปผง ที่ให้โปรตีนเข้มข้น
สามารถรับประทานได้ทันที นำติดตัวไปได้สะดวก และเก็บได้นานสะอาดและสดเสมอ

Albumin Plus

มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ย่อยและดูดซึมได้ช้า 2-3 ชั่วโมง
ทำให้ร่างกายได้รับ โปรตีนช้าๆอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับ
ใช้เสริมสร้างกล้ามเนื้อยามพักกล้ามเนื้อ การรับประทานโปรตีนไข่ให้ได้ผลดี
จึงควรรับประทานตอนท้องว่าง หรือ ก่อนนอน

ชาวเอเชียส่วนมาก ไม่ได้ดื่มนมอย่างต่อเนื่องหลังพ้นวัยทารก ร่างกาย จะหยุดผลิดเอ็นไซม์ที่ย่อยโปรตีนในนม เมื่อดื่มนม จึงเกิดอาการท้องอืด ดังนั้น โปรตีนไข่ จึงอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถดื่มนมได้้
้ หรือผู้ที่แพ้ แลคโตส ในนม

ทำไมต้องไข่ขาวผง

ในไข่ขาวสด หนึ่งฟองมีน้ำเป็นส่วนประกอบ มากถึง 90% ดังนั้นการกินไข่ขาวเพื่อให้ได้ปริมาณโปรตีนที่ร่างกายต้องการอาจต้อง
กินมากถึง 20 ฟองต่อวัน การกลืนไข่ขาวต้มมากมายขนาดนี้ทุกวันเป็นประจำจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อีกทั้งยังไม่สะดวกในการเตรียม และ การเก็บรักษา

จึงมีการสกัดโปรตีนจากไข่ขาวในรูปผงโปรตีนเข้มข้น ผงโปรตีนเพียง

4 กรัม หรือ 1 ช้อนชา ให้โปรตีนเทียบเท่ากับไข่ขาว 1 ฟองใหญ่

ในต่างประเทศโปรตีนไข่ขาวจะมีราคาแพงกว่าโปรตีนจากหางนมมาก เนื่องจากต้องนำเข้าวัตถุดิบ แต่ในประเทศไทย ที่เป็นแหล่งผลิตไข่ไก่ส่งออก

จึงแปรรูปเป็นไข่ขาวผง ที่เก็บรักษาได้นาน 24 เดือน และยังมีราคาถูกกว่ามาก

โปรตีนสำคัญอย่างไรต่อร่างกาย

โปรตีนเป็นสารอาหารจำเป็นต่อการสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ

ในหนึ่งวันคนเราควรได้รับโปรตีน 0.8-1กรัมต่อน้ำหนักตัว 1Kg สำหรับนักกีฬาอาจใช้มากถึง 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1Kg. โปรตีนประกอบไปด้วย

กรดอะมิโนจำเป็น ที่ต้องได้รับจากอาหารโดยตรง

กรดอะมิโนไม่จำเป็น คือร่างการสร้างขึ้นได้เอง